โตเกียว – 10 พฤษภาคม 2565 – SYNQA Co., Ltd. (“SYNQA”) ในฐานะบริษัทแม่ของ Omise Payment Holdings (“Omise”) และ OPN Co., Ltd., ได้ประกาศปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่ โดยจะเปลี่ยนชื่อจาก SYNQA เป็น “Opn” (โอเพ่น) เพื่อสะท้อนถึงวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของบริษัทฯ และเป้าหมายหลักในการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างแท้จริง สำหรับการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่ครั้งนี้ ยังช่วยเน้นย้ำถึงพันธสัญญาของบริษัท ในการมุ่งมั่นพัฒนาระบบรับชำระเงินให้สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น ไร้พรมแดน เพื่อตอบโจทย์ทุกภาคส่วน ทั้งในระดับบุคคลทั่วไปและธุรกิจต่างๆ

“การผลักดันให้ทุกๆ คนเข้าถึงเศรษฐกิจดิจิทัลได้ ในความหมายของเราคือ เราไม่เพียงแต่สนับสนุนผู้ประกอบการผ่านบริการรับชำระเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงไปถึงการช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถที่จะก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ได้ง่ายขึ้นด้วย” คุณจุน ฮาเซกาวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Opn กล่าว “ชีวิตประจำวันของทุกๆ คนมีเรื่องของการรับและการชำระเงินเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว โซลูชันต่างๆ ที่ Opn กำลังสร้างขึ้นนั้น จะช่วยให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคสามารถทำธุรกรรมระหว่างกันได้อย่างราบรื่นมากที่สุด การรีแบรนด์ของเราในครั้งนี้ ช่วยย้ำให้เห็นถึงภารกิจของเราที่มุ่งเน้นนำเสนอโซลูชันฟินเทคใหม่ๆ ซึ่งคำนึงถึงประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ดีเป็นที่ตั้ง รวมถึงการค่อยๆ ลดความยุ่งยากในการใช้งาน (pain point) ที่ยังพบอยู่มากในปัจจุบันออกไป”

การรีแบรนด์ของ Opn เกิดขึ้นพร้อมกับการประกาศระดมทุนครั้งใหม่ในรอบ Series C+ มูลค่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก เจไอซี เวนเจอร์ โกรท อินเวสเมนท์ (JIC Venture Growth Investments), ธนาคาร เอ็มยูเอฟจี (MUFG Bank, Ltd.,) และ มาร์ส โกรท แคปปิตอล (Mars Growth Capital) (อ้างอิงข่าวประชาสัมพันธ์: “Opn ได้รับเงินทุน 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการระดมทุนระดับ Series C+ จาก JIC VGI, MUFG Bank และ Mars Growth”)

ในปัจจุบัน Opn ได้ขยายผลิตภัณฑ์และบริการเพิ่มเติมจากกลุ่มบริการทางการเงินและการรับชำระเงินออนไลน์เดิมที่มีอยู่ โดยที่ผ่านมาบริการด้านการรับชำระเงินของ Opn ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการหลายพันรายทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในประเทศญี่ปุ่น ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ Opn นั้น จะเข้ามาช่วยเชื่อมต่อประสบการณ์การซื้อขายในโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกัน เสริมทัพผลิตภัณฑ์และบริการเดิมที่มีอยู่ ซึ่งจะผลักดันให้เกิดการใช้งานรูปแบบใหม่ๆ แก่ผู้บริโภค รวมถึงโอกาสใหม่ๆ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ

“แบรนด์ Opn ใหม่สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลของเรานับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราเป็นแพลตฟอร์มฟินเทคแบบเต็มรูปแบบ ที่จะเข้ามาลบประสบการณ์ทางด้านการเงินที่มีความซับซ้อนในปัจจุบันออกไป” คุณฮาเซกาวา กล่าวเสริม

โซลูชันของ Opn รองรับการค้าขายแบบไร้พรมแดน นั่นหมายถึงการเดินหน้าขยายบริการออกสู่ตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้งานในประเทศอื่นๆ นอกเหนือไปจากกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศญี่ปุ่นได้เข้าถึงบริการบนแพลตฟอร์มของ Opn และในขณะที่บริษัทฯ ก้าวสู่ปีที่ 10 นี้ ความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ราบรื่นผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่นำมาซึ่งประสบการณ์ผู้ใช้ที่ยอดเยี่ยม ยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

สำหรับการรีแบรนด์ในครั้งนี้ ยังเกิดขึ้นพร้อมๆ กับช่วงที่มีการปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งสำคัญ โดยในปัจจุบัน Opn มีพนักงานเกือบ 500 คน และยังได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการกว่า 7,000 ราย ใน 6 ประเทศ¹ และในวันนี้ Opn ก็ได้เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่² ซึ่งมีประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม และในอนาคตจะใช้เพื่อรับลูกค้าใหม่ๆ เข้าใช้งานแพลตฟอร์มอีกด้วย

เมื่อเร็วๆ นี้ Opn ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศไทย ใช้ชื่อว่า Opn Tag เป็นโซลูชันที่ช่วยยกระดับประสบการณ์หน้าร้านผ่านการผนวกเทคโนโลยี NFC³, คิวอาร์โค้ด, ระบบชำระเงินไร้สัมผัส และระบบเดลิเวอรี ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม และที่พักโดยเฉพาะ และภายในปีนี้ทางบริษัทฯ จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้ง Opn Mint ซึ่งจะเปิดให้แบรนด์ต่างๆ สามารถออก NFT ของตนเองได้ง่ายๆ, Opn Store ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร ช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างเว็บไซต์ได้เอง โดยที่มีเครื่องมือช่วยบริหารจัดการออเดอร์ และ ระบบรับชำระเงินติดตั้งมาให้พร้อมใช้⁴ รวมถึงกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ประกอบการให้มากขึ้นกว่าเดิม

เกี่ยวกับโอเพ่น (Opn)

Opn (ชื่อเดิม SYNQA Holdings) ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 โดยมุ่งเน้นให้บริการลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย ด้วยความเชี่ยวชาญด้านระบบรับชำระเงินออนไลน์ เทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับแอปพลิเคชันทางการเงิน และโซลูชันสำหรับดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน นอกจากนี้ Opn ยังเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างผู้บริโภค ธุรกิจ และสังคม ผ่านนวัตกรรมที่จะช่วยให้ทุกภาคส่วนเข้าถึงโอกาสความมั่งคั่งทางการเงินและระบบเศรษฐกิจ เพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างเป็นธรรม สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการร่วมผลักดันให้ทุกๆ คนสามารถเข้าถึงเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมีบริษัทในเครือฯ อย่าง Omise ให้การสนับสนุนทางด้านโครงสร้างการชำระเงิน พร้อมประสบการณ์ในการส่งมอบโซลูชันการชำระเงินออนไลน์แบบครบวงจร และบริการที่ธุรกิจ รวมถึงผู้ประกอบการหลายพันรายทั่วโลกต่างให้การยอมรับ