ข้อมูลจาก The World Bank ระบุว่าอัตราการถือบัตรเครดิตในประเทศไทยอยู่ที่ 22.61% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ อย่างสิงคโปร์และญี่ปุ่น ซึ่งมีอัตราการถือบัตรเครดิตอยู่ที่ 41.74% และ 69.66% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจการเข้าถึงบริการทางการเงินของไทยพบว่าประเทศไทยมีจำนวนประชากรที่มีบัญชีธนาคารสูงถึง 95.6%
จะเห็นได้ว่าบัญชีธนาคารจึงเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญที่สุดในประเทศไทย และธุรกิจควรนำเสนอวิธีการชำระเงินที่ใช้บัญชีธนาคารเพื่อตอบความต้องการของผู้บริโภค ซึ่ง 2 วิธีชำระเงินที่ได้รับความนิยมได้แก่ Online Direct Debit และโมบายแบงก์กิ้ง ในบทความนี้ เราจะเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Online Direct Debit และโมบายแบงก์กิ้งในแง่ของกระบวนการชำระเงินและกรณีการใช้งานที่เหมาะสม
Online Direct Debit คือการผูกบัญชีธนาคารกับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของร้านค้าเพื่อชำระเงินด้วยการหักบัญชีอัตโนมัติ ช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นในครั้งถัดๆ ไป โดยหลังจากผูกบัญชีผ่านแอปโมบายแบงก์กิ้งสำเร็จแล้ว ลูกค้าสามารถเลือกบัญชีที่ผูกไว้กับแพลตฟอร์มเพื่อชำระเงินได้โดยไม่ต้องกลับไปยืนยันการชำระเงินในแอปโมบายแบงก์กิ้งอีก
กระบวนการชำระเงินผ่าน Online Direct Decit จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน นั่นก็คือการผูกบัญชีและการชำระเงินหลังจากผูกบัญชีสำเร็จ โดยมีรายละเอียดดังนี้
การผูกบัญชี
เมื่อลูกค้าเลือก Online Direct Debit เป็นวิธีการชำระเงินที่หน้าเช็คเอาท์ในครั้งแรก ระบบจะส่งลูกค้าไปยังแอปโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารที่เลือกเพื่อผูกบัญชี (หากชำระเงินผ่านหน้าเดสก์ท็อป หน้าชำระเงินจะแสดงคิวอาร์โค้ดให้ลูกค้าสแกนผ่านแอปโมบายแบงก์กิ้ง) ลูกค้าจะต้องกรอกข้อมูลบัญชีที่ต้องการในแอปและยอมรับข้อกำหนดในการผูกบัญชี เมื่อผูกบัญชีสำเร็จแล้ว ระบบจะส่งลูกค้ากลับมาที่แพลตฟอร์มของร้านค้า
การชำระเงิน
ลูกค้าสามารถเลือกบัญชีที่ผูกไว้แล้วชำระเงินได้ทันที และในการชำระเงินครั้งถัดๆ ไป ลูกค้าจะสามารถเลือกบัญชีที่ผูกไว้แล้วได้โดยไม่ต้องไปที่แอปของธนาคารเพื่อยืนยันการชำระเงินอีก ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการชำระเงินและทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้นเนื่องจากไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าแอปอื่น นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกใช้ Online Direct Debit ในการชำระค่าบริการรายเดือนได้อีกด้วย โดยระบบจะหักเงินจากบัญชีโดยอัตโนมัติเมื่อครบกำหนดเวลา
โมบายแบงก์กิ้งคือการให้บริการต่างๆ ของธนาคาร โดยผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมต่างๆ เหมือนกับการทำธุรกรรมที่ธนาคารได้ ดังนั้น การชำระเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้งคือการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารที่ให้บริการ โดยลูกค้าจะต้องยืนยันการชำระเงินผ่านแอปดังกล่าวทุกครั้ง
เมื่อลูกค้าเลือกชำระเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้ง ระบบจะสร้าง Deep Link ที่จะเปิดแอปพลิเคชันธนาคารบนโทรศัพท์มือถือขึ้นมา รวมถึงแสดงรายละเอียดการชำระเงินให้ลูกค้ายืนยัน เมื่อลูกค้ากดยืนยันการชำระเงินก็จะถือว่าการชำระเงินเสร็จสมบูรณ์
ถึงแม้ว่าการชำระเงินทั้งสองวิธีจะทำการตัดเงินออกจากบัญชีธนาคารของลูกค้าเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างในด้านของกระบวนการชำระเงินและกรณีการใช้งานที่เหมาะสม ดังนี้
เนื่องจาก Online Direct Debit และโมบายแบงก์กิ้งมีกระบวนการชำระเงินและกรณีการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับโมเดลธุรกิจและพฤติกรรมการชำระเงินของลูกค้า โดย Online Direct Debit จะเหมาะกับธุรกิจที่เน้นการซื้อซ้ำหรือมีโมเดลการสมัครสมาชิก เนื่องจากจะช่วยมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นมากกว่า
ในทางกลับกัน โมบายแบงก์กิ้งจะเหมาะกับธุรกิจที่มีการซื้อแบบครั้งเดียวมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าบางรายอาจจะไม่ต้องการผูกบัญชีกับแบรนด์เสื้อผ้าที่เพิ่งรู้จัก หรือลูกค้าบางรายอาจจะไม่ต้องการผูกบัญชีกับแพลตฟอร์มที่ไม่ได้ใช้งานบ่อย ดังนั้นในกรณีนี้ โมบายแบงก์กิ้งก็จะเป็นตัวเลือกในการชำระเงินที่เหมาะสมมากกว่า
ก่อนที่จะเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสม ธุรกิจควรพิจารณาเป้าหมาย โมเดลธุรกิจ และพฤติกรรมของลูกค้า ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือก Online Direct Debit หรือโมบายแบงก์กิ้ง หรือทั้งสองตัวเลือก Opn Payments ก็มีโซลูชันที่พร้อมตอบโจทย์ธุรกิจทุกรูปแบบ ติดต่อทีมงานของเราเพื่อหาวิธีการชำระเงินที่เหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุดได้เลยวันนี้
29 สิงหาคม 2567
30 กรกฎาคม 2567
14 กรกฎาคม 2567
เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อวิเคราะห์การใช้และปรับการใช้งานให้เหมาะกับท่าน เมื่อกดยอมรับหรือเข้าชมเว็บไซต์ต่อ เราถือว่าท่านยินยอมในการใช้งานคุกกี้ของเว็บไซต์ อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว