Blog

Payments · 5 กรกฎาคม 2566

Network Tokenization คืออะไร? ทำความเข้าใจมาตรฐานใหม่ในการปกป้องข้อมูลบัตร

Payments

Data Security

Network Tokenization

Network tokenization cover photo

ลูกค้าในยุคดิจิทัลมีความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงในการชำระเงินออนไลน์เป็นอย่างดี ทั้งยังคาดหวังให้แพลตฟอร์มต่างๆ มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกที่สุดในทุกๆ ครั้ง ฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการชำระเงินอย่างการจดจำบัตรเพื่อให้ลูกค้าสามารถจ่ายด้วยคลิกเดียว (one-click checkout) และการรับชำระเงินอัตโนมัติ (recurring payment) จึงกลายเป็นมาตรฐานของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงตัวเลือกเสริมอีกต่อไป

เบื้องหลังฟังก์ชันที่ช่วยให้การจ่ายเงินออนไลน์ทั้งง่ายและปลอดภัยนี้ คือเทคโนโลยีที่เรียกว่า tokenization ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยแปลงข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิตของลูกค้าเป็นโทเคน ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลบัตรผ่านทางออนไลน์และบันทึกบัตรลงฐานข้อมูลได้อย่างปลอดภัย เมื่อต้องการชำระเงินลูกค้าไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลบัตรซ้ำๆ ในทุกๆ ครั้ง การที่แบรนด์สามารถที่จะสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ทั้งสะดวกและปลอดภัยให้กับลูกค้าได้ ก็จะช่วยให้ปิดการขายได้มากขึ้นและยังช่วยรักษาฐานลูกค้าประจำให้มั่นคง

และเร็วๆ นี้ ทางเครือข่ายบัตร (card network) ได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการชำระเงินไปอีกขั้น โดยได้ปล่อยเทคโนโลยีที่เรียกว่า network tokenization หรือการสร้างโทเคนโดยเครือข่ายบัตร ออกมา

โซลูชันเดียว ครบทั้งเรื่องความราบรื่นและความปลอดภัย

ทำไม network tokenization จึงเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่จะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับแวดวงอีคอมเมิร์ซ?

ก่อนอื่น เราชวนทำความเข้าใจฟังก์ชันการทำงานของ tokenization เทคโนโลยีนี้เป็นมาตรการด้านความปลอดภัยที่ทางผู้ให้บริการระบบรับชำระเงิน (payment gateway) ใช้แปลงข้อมูลบัตรเป็นโทเคน ซึ่งจะมีลักษณะเป็นชุดตัวอักษรและตัวเลขที่สุ่มขึ้นเพื่อซ่อนบัตรที่แท้จริง สามารถนำไปใช้แทนบัตรจริงเพื่อทำการชำระเงิน การแปลงข้อมูลบัตรเป็นโทเคนจะช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญเอาไว้ แม้จะเกิดเหตุร้ายแรงอย่างข้อมูลรั่วหรือแฮกระบบขึ้นมาจริงๆ ข้อมูลบัตรก็จะยังถูกปกป้องไว้

Card tokenization flow

เมื่อบัตรถูกแทนที่ด้วยโทเคนแล้ว จะสามารถนำไปจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัย ภายใต้ระบบที่มีการตรวจสอบและผ่านมาตรฐานความปลอดภัยสากล และโทเคนก็จะถูกดึงไปใช้เมื่อมีการเรียกรับชำระเงิน

รับชำระเงินออนไลน์ราบรื่นไปอีกขั้นด้วย network tokenization

Network tokenization เป็นมาตรฐานใหม่ของการทำ tokenization ซึ่งกำหนดโดยเครือข่ายบัตรชั้นนำของโลก ถือเป็นเจเนอเรชันใหม่ของโทเคน มีหน้าที่ปกป้องข้อมูลบัตรเช่นเดิม แต่มาด้วยศักยภาพที่มากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับร้านค้าอีคอมเมิร์ซแล้ว การทำ tokenization ทั้ง 2 รูปแบบนี้ไม่ได้มีความแตกต่างใดๆ เมื่อนำไปใช้งาน ระบบยังใช้โทเคนเป็นตัวแทนของบัตรในการชำระเงินเหมือนเดิม เพียงแต่เบื้องหลังแล้ว สิ่งที่เปลี่ยนไปจริงๆ คือผู้ทำหน้าที่สร้างโทเคน

Network token creation flow

การทำ network tokenization จะเกิดขึ้นในฝั่งของเครือข่ายบัตร ไม่ได้สร้างขึ้นในฝั่งของผู้ให้บริการระบบรับชำระเงินเหมือนกับการทำ tokenization แบบดั้งเดิม นั่นหมายถึงว่าบัตรหนึ่งใบจะถูกผูกเข้ากับโทเคนเพียงชุดเดียวสำหรับการใช้บนร้านค้าและแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนการยืนยันบัตร (authorization) และรับชำระเงินที่รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ข้อดีของ network tokenization สำหรับธุรกิจออนไลน์

Gateway token and network token comparison

1. อำนวยความสะดวกในการใช้งานให้กับผู้ถือบัตร

เมื่อโทเคนทั้งหมดถูกสร้างโดยเครือข่ายบัตร ข้อมูลบัตรและประวัติการเชื่อมต่อกับโทเคนจะถูกบันทึกไว้บนฐานข้อมูลของเครือข่ายบัตรทั้งหมด ดังนั้น เมื่อบัตรหมดอายุหรือบัตรหาย ระบบจะตรวจจับบัตรที่ออกใหม่และอัปเดตโทเคนโดยอัตโนมัติ

โซลูชันนี้ช่วยลดภาระของลูกค้าในการลบและบันทึกบัตรใบใหม่บนทุกแพลตฟอร์ม จึงลดอัตราการทิ้งตะกร้าและช่วยยกระดับประสบการณ์ชำระเงินให้ราบรื่นขึ้นไปอีกขั้น

2. เพิ่มอัตราการอนุมัติรายการและเพิ่มยอดขาย

เครือข่ายบัตรต่างๆ นั้นเป็นที่รู้จักและยอมรับโดยธนาคารจากทั่วโลก โทเคนที่สร้างโดยเครือข่ายบัตรจึงมีความน่าเชื่อถือมากกว่า และร่นระยะเวลาในการตรวจสอบความปลอดภัยไปโดยปริยาย โดยเฉพาะในกรณีที่ธนาคารของลูกค้าและร้านค้าอยู่คนละประเทศ

การอนุมัติรายการผ่าน network tokenization นั้นเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรายการที่ใช้โทเคนจากระบบรับชำระเงิน จึงช่วยเพิ่มอัตราการอนุมัติรายการและลดจำนวนรายการที่ถูกปฏิเสธสำหรับธนาคารทั้งในและนอกประเทศ

ผลลัพธ์คือ ระยะเวลาที่ใช้ในการเช็คเอาท์จะสั้นลงและยอดขายที่สูงขึ้น

3. ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย

การที่ทั้งข้อมูลบัตรและข้อมูลโทเคนถูกรวบรวมไว้ในที่เดียวกัน จะช่วยลดความเสี่ยงในการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญได้เป็นอย่างมาก และส่งผลให้เครือข่ายบัตรเข้าถึงข้อมูลการใช้บัตรบนแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งหมด ทำให้คอยติดตามได้ตลอดเวลาเมื่อมีการใช้บัตร หรือเมื่อบัตรถูกผูกกับแพลตฟอร์มใหม่

ในอนาคต เครือข่ายสามารถนำฐานข้อมูลนี้มาต่อยอดโดยการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับผู้ถือบัตรที่สามารถอัปเดตประวัติการใช้บัตรออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์ และเลือก subscribe หรือยกเลิกบริการต่างๆ ได้ในที่เดียว รวมถึงตรวจจับรายการที่น่าสงสัยได้ก่อนจะถูกตัดเงินจริง

วิธีเตรียมพร้อมรับมาตรฐานใหม่

แม้การผันเปลี่ยนสู่มาตรฐานการทำ tokenization แบบใหม่ จะไม่ได้เกิดขึ้นในทันที เนื่องจากมีผลต่อผู้ถือบัตรทั่วโลก แต่ก็จำเป็นอย่างมากที่ผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจจะต้องเตรียมตัวล่วงหน้า

วันนี้เรามี 2 วิธีในการเตรียมธุรกิจ เพื่อให้พร้อมอัปเกรดสู่ network tokenization

1. (สำหรับร้านค้า) เปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บบัตร ลงสู่ฐานข้อมูลที่ผ่านมาตรฐาน PCI DSS

ตามระเบียบแล้ว ธุรกิจที่มีการรับส่ง ประมวลผล หรือ จัดเก็บข้อมูลบัตรออนไลน์ จำเป็นต้องดำเนินการตามมาตรฐาน PCI DSS มิเช่นนั้นแล้วมีความเสี่ยงสูงที่ข้อมูลบัตรจะรั่วไหล ซึ่งจะทำให้สูญเสียทั้งทรัพย์สินและภาพลักษณ์ของแบรนด์ นอกจากนี้ การไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน PCI DSS ธุรกิจยังเสี่ยงถูกค่าปรับรายเดือนอีกด้วย

เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบที่ถูกต้องและเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล ธุรกิจออนไลน์ที่มีการรับชำระเงินผ่านบัตร หรือ มีการเก็บข้อมูลบัตรของลูกค้า จะต้องปฏิบัติการข้อบังคับ PCI DSS อย่างเคร่งครัด หากในปัจจุบันทางแบรนด์มีการเก็บข้อมูลบัตรในฐานข้อมูลใดๆ ก็ตามที่ไม่ได้มีการรับรองด้านความปลอดภัย เช่น การจดบันทึกในเอกสาร แบบฟอร์มออนไลน์ การส่งทางอีเมลโดยไม่มีการเข้ารหัสไฟล์ ถือเป็นวิธีการจัดการข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและมีความเสี่ยงสูงมากจะต้องรีบเปลี่ยนวิธีการจัดการข้อมูลและย้ายฐานข้อมูลสู่ระบบที่ปลอดภัยทันที

Opn Payments มีโซลูชันที่จะช่วยแบรนด์ย้ายข้อมูลจากฐานข้อมูลที่ไม่ได้มีการควบคุมความปลอดภัย เข้าสู่ระบบที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน PCI DSS โดยโซลูชันนี้จะช่วยจัดการทุกขั้นตอน ตั้งแต่การย้ายข้อมูลบัตรจากไฟล์ CSV แปลงบัตรเป็นโทเคน และเก็บรักษาลงฐานข้อมูลที่ปลอดภัยแน่นหนา

หากสนใจสามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเรา

2. (สำหรับธนาคารและผู้ให้บริการระบบรับชำระเงิน) อัปเกรด “โทเคน” เป็น “เน็ตเวิร์กโทเคน”

ภายหลังการเปิดตัว network tokenization เครือข่ายบัตรบางรายเริ่มมีการคิดค่าบริการเพิ่มเติมกับผู้ให้บริการระบบรับชำระเงินที่ยังมีการใช้งาน token รูปแบบเดิมในการรับชำระเงินแล้ว ซึ่งตรงนี้เป็นการเพิ่มต้นทุนในการให้บริการ

ผู้ให้บริการระบบรับชำระเงินจึงควรอัปเกรดระบบให้เป็นไปตามมาตรฐานใหม่ เพื่อรักษาต้นทุนให้คงเดิมและเพิ่มประสิทธิภาพของบริการที่ส่งมอบแก่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ใช้บริการ

ทั้งนี้ การอัปเกรดโทเคนแบบดั้งเดิมเป็นเน็ตเวิร์กโทเคนจะต้องทำผ่านโซลูชันที่เครือข่ายบัตรให้การยอมรับ ซึ่งกระบวนการพัฒนาจะต้องอาศัยทรัพยาการเป็นจำนวนมาก ทั้งในแงของระยะเวลาและบุคลากร ทางลัดสู่การอัปเกรดโทเคน คือบริการอัปเกรดโทเคนของ Opn Payments ซึ่งเป็นโซลูชันที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญและได้รับการยอมรับ ทำให้สามารถเริมต้นได้ในทันที

Network tokenization จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับวงการการเงินและส่งผลกระทบต่อธุรกิจและลูกค้าทั่วทุกมุมโลก ธุรกิจต่างๆ จึงควรการมองหาโซลูชันที่จำเป็นและเตรียมตัวให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึง

ติดตามข่าวสารที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ network tokenization ไปกับ Opn Payments และติดต่อทีมงานของเราได้ที่ support@opn.ooo หากต้องการความช่วยเหลือ


More from Opn

เปรียบเทียบ Online Direct Debit vs โมบายแบงก์กิ้ง วิธีการชำระเงินแบบใดที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ

6 ตุลาคม 2567

เปรียบเทียบ Online Direct Debit vs โมบายแบงก์กิ้ง วิธีการชำระเงินแบบใดที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
แนะนำ Payment Links+ โซลูชันใหม่จาก Opn Payments

29 สิงหาคม 2567

แนะนำ Payment Links+ โซลูชันใหม่จาก Opn Payments
เจาะลึกเบื้องหลังระบบเสถียรแม้ช่วงพีกกับ Director of Infrastructure ของ Opn Payments

30 กรกฎาคม 2567

เจาะลึกเบื้องหลังระบบเสถียรแม้ช่วงพีกกับ Director of Infrastructure ของ Opn Payments

Subscribe to receive the latest updates from Opn

Protected by reCAPTCHA

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อวิเคราะห์การใช้และปรับการใช้งานให้เหมาะกับท่าน เมื่อกดยอมรับหรือเข้าชมเว็บไซต์ต่อ เราถือว่าท่านยินยอมในการใช้งานคุกกี้ของเว็บไซต์ อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว