ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มาตรการจำกัดการให้บริการภายในร้านอาหาร รวมถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ได้เข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราทุกคนไป ผู้บริโภคเองคุ้นชินกับความสะดวกสบายของการสั่งอาหารออนไลน์มากขึ้น ส่วนร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านกาแฟต่างๆ เองก็ปรับตัวตาม มีการเพิ่ม “สาขาออนไลน์” เข้ามาเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขาย

ในปี 2021 มูลค่าตลาดอาหารเดลิเวอรี่เติบโตขึ้นกว่า 46.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวขึ้นอีกในปี 2022 เนื่องจากจำนวนการสั่งและมูลค่าต่อการสั่งที่สูงขึ้น และแม้ว่าตลาดเดลิเวอรี่ในปีนี้จะยังคงดูสดใส แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ที่ยังไม่แน่นอน รวมถึงการแข่งขันจากคู่แข่งที่นอกจากจะเพิ่มมากขึ้นแล้วยังรุนแรงขึ้นอีกเรื่อยๆ ผู้ประกอบการต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้ธุรกิจร้านอาหารออนไลน์ สามารถเติบโตต่อไปได้ในระยะยาว

ในบทความนี้ เรามี 4 คำแนะนำดีๆ สำหรับเจ้าของธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่ ให้ออเดอร์เข้าไม่หยุด โกยรายได้อย่างต่อเนื่องได้ยาวๆ

มีช่องทางการติดต่อและสั่งอาหารที่เข้าถึงง่าย

เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และไลน์ น่าจะเป็นช่องทางแรกๆ ที่เจ้าของร้านนึกถึงเมื่อจะหันมาสร้างแบรนด์บนช่องทางออนไลน์ แต่โซเชียลมีเดียและแอปแชท ไม่ได้เกิดมาเพื่อรองรับการขายอาหารเต็มตัว

ในระยะสั้น การพึ่งแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ในการรับออเดอร์และส่งอาหารอาจเป็นทางออกที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด แต่ช่องทางนี้ก็จำกัดการเข้าถึงข้อมูลหลังบ้านและการสื่อสารกับลูกค้า ทำให้การรักษายอดขายและลูกค้าในระยะยาวบนแพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นเรื่องยาก

การมีเว็บไซต์เดลิเวอรี่ของตัวเองเพื่อใช้ควบคู่ไปกับสื่อโซเชียลจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้การทำงานภายในร้านเป็นระบบระเบียบและสามารถรองรับออเดอร์ที่มากขึ้นในอนาคต ซึ่งการรับออเดอร์ผ่านทางเว็บไซต์แทนการรับออเดอร์ทางแชท ช่วยให้:

• ลูกค้าเลือกดูเมนูอาหารได้ง่ายขึ้น กดสั่งอาหารเองได้เลย ไม่ต้องดูจากรูปแล้วพิมพ์ออเดอร์

• มีฟังก์ชันสำหรับเพิ่มรายละเอียดต่างๆ ที่อาจตกหล่นได้เมื่อพิมพ์บอกในแชท เช่น พิเศษเส้น ไม่ใส่ถั่วงอก หวานน้อย ฯลฯ

• บริหารจัดการพนักงานในร้านได้ดียิ่งขึ้น จากเดิมที่ต้องมีแอดมินคอยมอนิเตอร์และตอบแชท ลูกค้าจะสามารถกดดูเมนู สั่งอาหารที่ต้องการ และชำระเงินออนไลน์ได้เองเลย เท่ากับว่าผู้ประกอบการสามารถลดจำนวนพนักงานลงหรือจัดสรรให้ไปทำงานอื่นๆ ภายในร้านแทนได้

เชื่อมต่อบริการขนส่งเข้ากับระบบจัดการออเดอร์

ปัจจุบัน ร้านอาหารและคาเฟ่สามารถใช้บริการของผู้ให้บริการขนส่งเอกชนในการจัดส่งอาหารแทนการจัดส่งเอง ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนซื้อรถและจ้างพนักงานขับรถประจำร้าน บริการเหล่านี้ยังมีพนักงานขับรถจำนวนมากที่สแตนบายรับออเดอร์ตลอดเวลา ทำให้ทางร้านทยอยส่งออเดอร์ออกได้อย่างไม่มีสะดุดแม้ช่วงที่ออเดอร์เยอะ

เพื่อการบริหารออเดอร์และพัฒนาบริการของร้านให้ดียิ่งขึ้นในระยะยาว ร้านค้าควรเชื่อมต่อระบบจัดการออเดอร์กับระบบการเรียกคนขับเพื่อให้พนักงานกดเรียกคนขับได้เลยเมื่อมีออเดอร์เข้ามาในระบบ และหากมีข้อผิดพลาดระหว่างขั้นตอนการจัดส่ง ร้านค้าก็สามารถติดตามฟีดแบคจากลูกค้าและติดต่อกับผู้ให้บริการเพื่อให้แก้ไขได้อย่างทันท่วงที

ดึงดูดลูกค้าใหม่ เอาใจลูกค้าประจำ ด้วยระบบ CRM

เชื่อมต่อกับระบบ CRM หรือระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ที่มีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าประทับใจในการใช้บริการร้านและอยากกลับมาซื้อซ้ำมากขึ้น โดยในเบื้องต้น ฟีเจอร์ที่ร้านค้าควรมองหา คือ

• บัตรสมาชิกออนไลน์ โดยลูกค้าสามารถสะสมแต้มเมื่อทำรายการถึงยอดที่กำหนดเพื่อนำไปแลกสินค้าหรือสิทธิพิเศษอื่นๆ ทั้งบนหน้าเว็บไซต์และเมื่อไปทานอาหารที่ร้าน

• คูปองออนไลน์และระบบการจัดโปรโมชันที่เชื่อมกับทั้งเว็บไซต์และหน้าร้าน เมื่อลูกค้าเลือกรับส่วนลดก็สามารถกดใช้บนเว็บไซต์ได้เลย โดยยอดชำระจะถูกตัดโดยอัตโนมัติ ลูกค้าไม่ต้องส่งรูปคูปองหรือพิมพ์รายละเอียดยาวๆ ในแชท หรือถ้ามีหน้าร้านออฟไลน์ ก็ควรมองหาผู้ให้บริการที่มีฟีเจอร์คูปองดิจิทัลแบบที่สแกนบาร์โค้ดเพื่อรับส่วนลดที่สาขาต่างๆ ได้ด้วย

ฐานข้อมูลลูกค้า ตัวช่วยในการทำการตลาดอย่างชาญฉลาด

การลงทุนยิงโฆษณาเยอะๆ หรือทำแคมเปญดีๆ บนแพลตฟอร์มโซเชียลอาจจะไม่ได้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดเสมอไปถ้าคนที่เห็นโฆษณาเหล่านั้นไม่ได้ชอบเมนูอาหารที่พวกเขาเห็น ร้านค้าจึงควรมองหาเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมในการสั่งอาหารของแต่ละคน เช่น ชอบสั่งอาหารเมนูไหน วันไหน ช่วงไหน นำมาปรับแคมเปญให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าของร้านเพื่อเพิ่มอัตราการมองเห็นและการคลิกของโฆษณาที่ยิงออกไป ทำให้บริหารงบการตลาดให้ดียิ่งขึ้น

เชื่อมต่อช่องทางการชำระเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้าและใช้งานสะดวก

ปัจจุบัน ลูกค้ามีตัวเลือกแบรนด์และแพลตฟอร์มที่หลากหลาย และหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเลือกว่าจะสั่งอาหารกับร้านไหนก็คือความสะดวกในการชำระเงิน

สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือช่องทางการชำระเงินที่ร้านรองรับ ถ้าทางร้านไม่รับชำระเงินผ่านช่องทางที่ลูกค้าใช้ในชีวิตประจำวัน ลูกค้าก็สามารถเปลี่ยนใจไปซื้อกับร้านอื่นได้ง่ายๆ ร้านค้าจึงควรรองรับช่องทางการชำระเงินที่ลูกค้านิยมใช้ในการซื้อของออนไลน์ เช่น พร้อมเพย์ บัตรเดบิต/เครดิต หรืออีวอลเล็ทเจ้าต่างๆ

เมื่อลูกค้าสั่งอาหารเดลิเวอรี่ ยิ่งใช้เวลาในการสั่งน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี ในหลายๆ ครั้ง ลูกค้าใช้เวลาไปกับการส่งสลิปโอนเงินและรอแอดมินยืนยันออเดอร์ ซึ่งอาจทำให้ร้านอาหารต้องเสียลูกค้าในช่วงที่ลูกค้าไม่สะดวกรอ ร้านค้าจึงควรมีระบบการรับชำระเงินที่รวดเร็ว ยืนยันการจ่ายเงินได้แบบเรียลไทม์ เพื่อร่นระยะเวลาและลดขั้นตอนในการยืนยันการชำระเงิน หากทางร้านจะรับบัตรเครดิตหรือเดบิต ตัวเลือกการบันทึกข้อมูลบัตรสำหรับใช้ในการซื้อครั้งต่อไปก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ควรพิจารณาเพื่อให้ลูกค้าประจำกลับมาซื้อซ้ำได้โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลใหม่ทุกครั้ง

สร้างเว็บไซต์และปูรากฐานระบบเดลิเวอรี่กับ Hato Hub

Hato Hub หนึ่งในธุรกิจพาร์ทเนอร์ของโอมิเซะ เป็นแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจอาหารและร้านขายของชำทุกขนาด มีโซลูชันครบวงจรให้เจ้าของธุรกิจได้ออกแบบเว็บไซต์เดลิเวอรี่และวางระบบการบริหารธุรกิจออนไลน์เพื่อรองรับและเร่งการเติบโตของแบรนด์ในระยะยาว

1. ระบบจัดการร้านอาหาร และ ระบบสั่งอาหารออนไลน์ สร้างเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับระบบหลังบ้าน ระบบรับชำระเงิน และผู้ให้บริการขนส่งเจ้าต่างๆ

2. ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) บัตรสมาชิกแบบดิจิทัลที่ใช้สะสมแต้มเพื่อแลกรับสิทธิพิเศษได้ทั้งบนเว็บไซต์และที่หน้าร้าน

3. เครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูล สำหรับใช้ในการวางแผนการตลาด เพื่อให้เลือกข้อความและช่วงเวลาในการยิงโฆษณาที่เหมาะสม

ค้นพบเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพาร์ทเนอร์ของ Hato Hub กับโอมิเซะ ที่นี่ หรือเข้าไปปรึกษากับทีมงาน Hato Hub ได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก:

• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย